
Calvin Klein(CK) เป็นอะไรที่ลืมตาขึ้นมาบนโลกก็ได้ยินชื่อนี้ละ ถ้าจะถามว่า แก แก อยากซื้อน้ำหอมอ่ะ ซื้ออะไรดี? นังเพื่อนตัวดีก็จะทำตาวาวราวกับมีความรู้แล้วก็ตอบ CK สิแกเก๋ดี เหมือน Copy และ Paste กันมายังไงยังงั้น
สำหรับน้ำหอมของแบรนด์นี้ ผมขอยกเครดิตความดีความชอบให้บุคคลสองกลุ่มคือสุคนธกร Alberto Morillas และ Harry Fremont กับคนอีกกลุ่มคือคนวางแผนการตลาด จริงๆ มีสุคนธกรท่านอื่นอีกที่ทำน้ำหอมให้แบรนด์นี้แต่ Alberto กับ Harry น่ายกย่องกว่าตรงที่ทำให้ CK one ดังระเบิดระเบ้อ ส่วนตัวอื่นนั้นเหมือนเงาปลาสร้อยที่แหวกว่ายอยู่ในคอนเซ็ปต์ของ CK one ซะเป็นส่วนใหญ่
สาเหตุที่ CK ฮิตติดลมบนนั้นส่วนตัวผมมองว่าเขามาถูกที่และถูกเวลา(ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายการตลาดเขาคงวิเคราะห์มาดี) โดยที่ CK one ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 และในรัชสมัยนั้นเอง แบรนด์น้ำหอมที่ประกาศตัวว่าเป็นแบรนด์ Unisex แท้ๆ ยังมีอยู่น้อยมาก แถมแบรนด์ที่ทำมาเพื่อวัยรุ่นช่วงอายุ 17-25 นั้นแทบจะไม่ปรากฏ จะมีก็เป็นไลน์ย่อยๆ แตกแยกออกมาเสียส่วนใหญ่
และดูเหมือนว่าทางแบรนด์ยังจะขยี้หนักๆ ลงไปถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกพอสมควร โดยการนำเสนอสูตรเป็นแบบ EDT ที่ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมกลางๆ ซึ่งทำให้สามารถทำราคาได้เหมาะสมกับกำลังทรัพย์ของกลุ่มเป้าหมายพอดิบพอดี
การดีไซน์ขวดที่เก๋แบบขวดแบนแม่โขง(ไม่แน่ใจว่าทีมDesignเดียวกันหรือเปล่า?)ซึ่งคนซื้อไปก็ชอบเอาไปประดิษฐ์ประดอยใช้สอยต่อ และการมองต่างว่าทำไมน้ำหอมต้อง EDP ในเมื่อวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีกิจกรรมทางสังคมนั่งจิบเหล้าจิบเบียร์นัวเนียกันอยู่แล้ว เขาก็แค่เรียน ใช้ชีวิต และสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้ง
นั่นแหละคือคำตอบว่าทำไมต้อง EDT กลิ่นแนวได้หมดถ้าสดชื่นเบาๆ และความยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นอะไรที่เหมาะสมและไม่ทำให้อาจารย์หันมาด่า มองค้อน หมั่นไส้และนำไปสู่การหักคะแนนจิตพิสัย(เวอร์ละ ฮ่าๆๆ)
วัยรุ่นนั้นกำลังทรัพย์อาจจะไม่ได้มาก แต่พวกเขาเต็มไปด้วยพลัง การแพร่ระบาดที่รวดเร็วของพวกเขาจะทำให้แบรนด์สามารถลุกลามครอบคลุมทั่วถึงและมั่นคง(ใครก็ได้จ้างพี่ไปเป็น CEO ที ฮ่าๆๆๆ)
มาถึงตรงนี้จะไม่พูดเรื่องกลิ่นก็กะไรอยู่ เอาเป็นว่าผมจะรีวิวให้ทีเดียว 3 ตัวคือ CK One , CK One Shock for him, CK2 เอาแบบตัวฮิตๆ เพื่อที่จะได้ง่ายในการตัดสินใจ โดยไม่ต้องมาคอยถามอากู๋ไล่เปิดหลายหน้าจอ เสียทั้งเวลาเสียทั้งค่าเน็ท ขอให้มันจบตรงนี้ละกันนะ เอ้า! เริ่ม!